
นอกจากนี้ได้ขยายเครือข่ายโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือ รพ.สต.เพิ่มอีก 2,000 แห่ง จากปัจจุบันมีโรงพยาบาลระดับอำเภอ จังหวัด ทั่วประเทศที่เชื่อมระบบเคลมออนไลน์กับบริษัทแล้ว 1,963 แห่ง ขณะเดียวกันได้รณรงค์ลดอุบัติเหตุบนท้องถนนเข้มข้นมากขึ้นผ่านกลุ่มเด็กและ เยาวชน กลุ่มคนทำงาน และกลุ่มชุมชนทั่วไป ทั้งนี้ต้องการให้ประชาชนให้ความสำคัญทำประกันภัยรถจักรยานยนต์ เพราะที่ผ่านมามีรถจักรยานยนต์จดทะเบียน 19-20 ล้านคัน แต่ทำประกันเพียง14 ล้านคัน
นายประสิทธิ์ คำเกิด รองกรรมการผู้จัดการ ด้านปฏิบัติการ บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด หรืออาร์วีพี เปิดเผยว่า การปรับการเพิ่มวงเงินคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจาก 15,000 เป็น 30,000 บาท ตามพรบ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถปี53 มีผลตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค. 57 ที่ผ่านมานั้น ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นประมาณ 600 ล้านบาท แต่เบี้ยประกันที่รับมาในแต่เดือนจะเพียงพอจ่ายค่าสินไหมเพิ่มขึ้นหรือไม่ ต้องรอดูสถานการณ์ในช่วง3 เดือนก่อน หลังจากนั้นจะประเมินผลอีกครั้ง เพราะก่อนหน้านี้สมาคมวินาศภัยเสนอสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการ ประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) ปรับลดวงเงินสบทบที่สมาคมฯจ่ายให้บริษัทฯ 12.25% เหลือเพียง 7.25-7.5% แต่คปภ.อยู่ระหว่างการพิจารณาในเรื่องนี้ แต่หากปรับลดวงเงินดังกล่าวจะกระทบการดำเนินงานของบริษัทฯ โดยปีนี้คาดว่าค่าสินไหมทดแทนจะอยู่ที่ 3,000 ล้านบาท ขณะที่เบี้ยประกันภัยตั้งเป้าหมายไว้ที่ 4,500 ล้านบาท
สำหรับอัตราค่าสินไหมทดแทนหรือลอสเรโชของรถจักรยานยนต์เพิ่มขึ้น 10-15% จากปกติที่บริษัทมีลอสเรโชอยู่ที่ 64% หรือคิดเป็นเงินที่จ่ายให้กับผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตปีละ 2,400-2,500 ล้านบาท เพราะอุบัติเหตุสัดส่วน70% เกิดจากผู้ขับขี่เป็นหลัก และแต่ละปีมีผู้เกิดอุบัติเหตุประมาณ 300,000 คน อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันการจัดเก็บเบี้ยประกันตามพรบ.คุ้มครองผู้ประสบภัยฯ ทั้งระบบอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท แบ่งเป็นประกันรถจักรยานยนต์อยู่ที่ 3,800-3,900 ล้านบาทต่อปี ที่เหลือเป็นรถประเภทอื่น ส่วนปีนี้คาดว่าค่าสินไหมทดแทนจะอยู่ที่ 3,000 ล้านบาท ขณะที่เบี้ยประกันภัยตั้งเป้าหมายไว้ที่ 4,500 ล้านบาท
แหล่งที่มา : เดลินิวส์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น