ปีที่แล้ว เป็นปีที่ภาคธุรกิจของไทยตื่นตัวอย่างมาก ในเรื่องของธรรมาภิบาล และการต่อต้านคอร์รัปชัน ดังจะเห็นได้จากการที่ทั้งจำนวนบริษัท ที่เข้าประกาศเจตนารมณ์ และบริษัทที่ผ่านการรับรองจากซีเอซี เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากบริบททางสังคม และการเมือง ที่หันมาให้ความสำคัญกับเรื่องของความโปร่งใสมากขึ้น รวมถึงการแสดงท่าทีเอาจริงเอาจังมากขึ้น ของภาครัฐ ในการที่จะขจัดปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน”นอกจากนั้น ยังจะเน้นไปที่การพยายามดึงภาคธุรกิจ ที่ถูกมองว่ามีความเสี่ยงต่อการทุจริตสูง เช่น ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการประมูลงานภาครัฐ ให้เข้ามาเป็นสมาชิกแนวร่วมฯ อีกด้วย และจะพยายามผลักดันให้บริษัทที่เป็นสมาชิกแนวร่วมฯ อยู่แล้ว นำนโยบายต่อต้านการทุจริต ไปปฏิบัติจริง จนสามารถผ่านการรับรองจากให้ได้เพิ่มขึ้นอีกกว่าเท่าตัว ทั้งนี้สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ซีเอซี รายชื่อของบริษัทที่ได้ประกาศเจตนารมณ์ และผ่านการรับรองได้จาก http://www.thai-iod.com/th/projects-3-detail.asp?id=2
นายบัณฑิต นิจถาวร เลขาธิการแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต (ซีเอซี) เปิดเผยว่า ซีเอซีวางเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนบริษัทที่เข้าร่วมประกาศเจตนารมณ์ต่อต้าน การทุจริตคอร์รัปชัน เป็น 600 บริษัท ในปี 58 จากปีที่ผ่านมามี 406 บริษัท ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 138 บริษัท จาก 268 บริษัทเมื่อสิ้นปี 56 ที่ผ่านมาโดยจะให้ความสำคัญเป็นพิเศษ กับการดึงกลุ่มธุรกิจที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้าง และการประมูลงานภาครัฐ เข้ามาเป็นสมาชิกแนวร่วมด้วย
นอกจากนี้ ซีเอซียังมีเป้าหมายที่จะผลักดันให้บริษัทที่ได้ประกาศเจตนารมณ์ไปแล้ว ดำเนินการให้มีนโยบาย และแนวปฏิบัติ ป้องกันการทุจริตภายในองค์กรครบถ้วนตามเกณฑ์ที่กำหน ดและเพิ่มจำนวนบริษัทที่ผ่านการรับรองจากซีเอซีเป็น 200 บริษัท ในปี 58 จาก78 บริษัท เมื่อสิ้นปี 57ที่ผ่านมา และ 22 บริษัทเมื่อสิ้นปี 56
แหล่งที่มา : เดลินิวส์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น