นักโทษรายที่สองคือ นายยาสเซอร์ บิน ฮุสเซน อัล-ฮัมซา ชาวซาอุดีอาระเบีย ถูกประหารฯ ที่เขต อัล-เญาฟะ ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ จากความผิดฐานลักลอบค้ายาบ้า และรายที่สาม นายลาติฟ ข่าน นูร์ซาดา ชาวปากีสถาน ถูกประหารฯ ที่เมืองศักดิ์สิทธิ์เมกกะ จากความผิดฐานลักลอบนำยาเสพติดประเภทเฮโรอีนเข้าสู่ราชอาณาจักรการประหารชีวิตครั้งล่าสุด ทำให้จำนวนนักโทษที่สังเวยคมดาบเพชฆาตทางการซาอุดีอาระเบีย เพิ่มขึ้นเป็น 16 รายแล้ว นับตั้งแต่เริ่มต้นศักราชใหม่ และ 4 รายนับตั้งแต่สมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์พระองค์ใหม่ของซาอุดีอาระเบียเมื่อวันศุกร์ (23 ม.ค.) หลังการสิ้นพระชนม์ของกษัตริย์อับดุลเลาะห์
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันที่ 28 ม.ค. ว่า กรมราชทัณฑ์ซาอุดีอาระเบีย ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ดำเนินการประหารชีวิต ด้วยการตัดศีรษะ นักโทษ 3 คนเมื่อวันอังคาร ซึ่งเป็นการสานต่อนโยบายลงโทษผู้กระทำความผิดอาญาร้ายแรง ภายใต้กษัตริย์พระองค์ใหม่
แถลงการณ์ของกระทรวงมหาดไทยซาอุดีอาระเบีย ระบุว่า นักโทษประหารรายแรกคือ นายโอมาร์ บิน ยาห์ยา บิน อิบรอฮิม อัล-บาร์กาตี ชาวซาอุดีอาระเบีย ถูกประหารชีวิตที่เรือนจำในเขตอาซีร์ ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ จากความผิดฐานมีเพศสัมพันธ์กับลูกในใส้ แต่ไม่ระบุรายละเอียดว่าเป็นลูกชายหรือลูกสาว แถลงการณ์ย้ำอีกว่า การประหารชีวิตนายอัล-บาร์กาตี จะเป็นบทเรียนสำหรับผู้อื่น ไม่ให้กระทำตามเยี่ยงอย่าง
แหล่งที่มา : เดลินิวส์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น