
ส่วน นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า จะเร่งผลักดันให้ตลาดต่างประเทศยอมรับในแบรนด์สินค้าไทย ซึ่ง ส.อ.ท. จะเน้นสินค้าอุตสาหกรรม เช่น อิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอ อาหาร และจะร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ออกไปทำตลาด โดยดูประเทศที่มีโอกาสทั้งด้านการลงทุนและการค้าขาย สำหรับอุปสรรคต่อการส่งออกปีหน้า น่าจะเป็นภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ฟื้นตัวดี ทำให้กำลังซื้อลดลง และยังมีปัญหาสหภาพยุโรป (อียู) ตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) สินค้าไทย ซึ่งภาคเอกชนกำลังรวบรวมปัญหา ผลกระทบ และแนวทางแก้ไขว่า จะหาตลาดใดมาเสริมกับยอดส่งออกที่ลดลงนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ว่า ได้กำหนดแนวทางความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับภาคเอกชนในการส่งเสริม และผลักดันการค้าระหว่างประเทศของไทยในปี 58 โดยจะร่วมมือกันทำตลาด ทั้งการส่งออกไปยังตลาดเดิม และตลาดใหม่ เพื่อผลักดันให้มูลค่าการส่งออกขยายตัวให้ได้ 4% จากปีนี้ ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยแนวทางในการทำงาน จะร่วมกันผลักดันและสร้างการยอมรับสินค้าไทย ทั้งสินค้าอุตสาหกรรมและสินค้าเกษตร รวมถึงภาคบริการ และจะเพิ่มการเจาะตลาดใหม่ที่มีโอกาส โดยจะดูลึกลงไปถึงขั้นที่ว่า เมืองใดที่กำลังเติบโต มีความต้องการสินค้าอะไร และไทยจะผลักดันส่งออกสินค้าอะไรได้บ้าง เช่น รัสเซีย ที่มีความต้องการสินค้ามาก และมีโอกาสที่สินค้าไทยจะขายได้มาก เพราะรัสเซียกำลังรวมตัวกับประเทศพันธมิตรเป็นยูโรเซีย รวมถึงตลาดแอฟริกา อเมริกาใต้ อินเดียใต้ เป็นต้น
แหล่งที่มา : ไทยรัฐ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น