
สำหรับกลุ่มที่มีปัญหา 153 โครงการ รวมจำนวน 875 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น 3 กลุ่มคือ 1.ติดปัญหาไม่มีสายส่ง 82 โครงการ รวม 490 เมกะวัตต์ 2.พื้นที่ตั้งติดปัญหาผังเมือง 57 โครงการ รวม 334 เมกะวัตต์ 3.ติดปัญหาทั้งสายส่งและผังเมือง 14 ราย รวม 48 เมกะวัตต์ ที่ประชุมเห็นชอบในการรับซื้อไฟฟ้า และให้สามารถย้ายที่ตั้งโครงการใหม่ได้ แต่ต้องดำเนินการในขั้นตอนนี้ให้แล้วเสร็จ ในวันที่ 31 มี.ค.2558 โดย พพ.จะแจ้งไปยังเอกชนกลุ่มนี้ และกำหนดซีโอดีวันที่ 31 ธ.ค 2558 และที่ประชุมยังมีมติว่าจะไม่รับซื้อไฟฟ้าจากโซลาร์ฟาร์มเพิ่มอีก แต่จะเร่งระบายออกใบอนุญาตที่ตกค้างให้แล้วเสร็จ และ พพ.จะประสานงานเรื่องการบริการด้านข้อมูล (วันสต็อปเซอร์วิส) ให้ว่าสถานที่ที่ก่อสร้างแห่งใหม่ๆว่าจะติดปัญหาว่าสายส่งไฟฟ้าเต็มหรือไม่ ภายในวันที่ 31 มี.ค. 2558 ถ้าดำเนินการไม่ได้ก็ต้องยกเลิกโครงการ และตามแผนรับซื้อไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ปี 2558 หากทำได้ตามแผนที่กำหนดไว้ จะมีปริมาณ 3,000 เมกะวัตต์ โดยการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) วันที่ 15 ธ.ค.นี้ ตนจะรายงานเรื่องนี้ให้ กพช.นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังการประชุม คณะกรรมการบริหารมาตรการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้า จากพลังงานหมุนเวียนว่า ที่ประชุมเห็นชอบหลักการในการรับซื้อไฟฟ้าโครงการผลิตไฟฟ้าแสงอาทิตย์ แบบติดตั้งบนพื้นดิน (โซลาร์ฟาร์ม) ที่ค้างการพิจารณาตั้งแต่ปี 2553 จำนวน 178 โครงการ ปริมาณรวม 1,013 เมกะวัตต์ โดยกลุ่มแรกที่ไม่ติดปัญหาใดๆ มี 25 โครงการ รวม 138 เมกะวัตต์ ได้มอบให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ไปลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (พีพีเอ) และกำหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ (ซีดีโอ) ภายในวันที่ 31 ธ.ค.2558 โดยกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) จะทำหนังสือแจ้งไปยังภาคเอกชน
แหล่งที่มา : เดลินิวส์
Source: ยุติสนับสนุนลงทุนโซลาร์ฟาร์ม กดดันรายเดิมจ่ายไฟในปี 2558
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น