ทางด้านพรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ รักษาการโฆษกพรรค กล่าวว่า ถือเป็นความตั้งใจดีที่จะยกเลิกกฎอัยการศึก ที่ใช้มาร่วม 10 เดือนแล้ว แต่เป็นกังวลถ้าจะใช้มาตรา 44 แทน เพราะขอบข่ายอำนาจครอบจักรวาล เป็นเหมือนดาบ 2 คม ถ้าใช้ดีก็ดีไป แต่ถ้าใช้ไม่ถูกต้องก็จะเกิดผลเสียมากกว่า จึงอยากให้ลดระดับความเข้มของกฎหมายลงมาใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง หรือพ.ร.ก.ฉุกเฉินแทนมากกว่า จะใช้ทั่วประเทศหรือใช้เฉพาะจุด เป็นดุลพินิจของ พล.อ.ประยุทธ์ เชื่อว่าจะผ่อนคลายความตึงเครียด สร้างบรรยากาศที่ดี ความเชื่อมั่น การลงทุนท่องเที่ยวจะกลับคืนมาระดับหนึ่ง และถือเป็นการคืนความสุขให้ประชาชนด้วยเมื่อวันที่ 30 มี.ค. นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เตรียมใช้มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว ปี 2557 แทน หลังยกเลิกกฎอัยการศึก ว่า ต้องดูให้ดี และแก้ให้ตรงจุด ปัญหาที่เกิดขึ้นเพียงแค่ขอร้องระบอบทักษิณ ให้หยุดทำร้ายประเทศได้ ปัญหาก็จบ ทั้งนี้กฎอัยการศึกประกาศใช้มานานจนคนดีชินไปแล้วว่าไม่มีข้อจำกัดอะไรมาก มาย เพียงแต่นานาชาติไม่ค่อยชอบคำนี้ เพราะดูเหมือนพลเรือนถูกจำกัดสิทธิ ในแง่หลักการและการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจ คำนี้เป็นอุปสรรค แต่ถ้ารัฐบาลเปลี่ยนจากกฎอัยการศึกมาเป็นมาตรา 44 หากมีการใช้พร่ำเพรื่อ จะทำให้มองภาพเป็นเผด็จการได้
“การแก้ปัญหาให้ตรงจุดไม่ยากเลย ถ้ารัฐบาลประกาศเลิกกฎอัยการศึกไปเลย แล้วบอกพวกป่วนเมืองว่าขอเถอะ หยุดเถอะ หยุดทำร้ายประเทศได้แล้ว อย่าทำลายประเทศอีกต่อไปเลย พวกคุณทำประเทศถอยหลังไปมากแล้ว และถ้าไม่มีใครเชื่อก็ลากคอแกนนำมาติดตะรางให้หมดก็จบกัน” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
แหล่งที่มา : เดลินิวส์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น