“อยากให้ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้พิจารณาองค์ประกอบการทำงานของเจ้าหน้าที่อย่างเป็นธรรมด้วย สังคมได้ตั้งข้อสังเกตเชิงสับสนในระยะหลังว่า ทำไมบางองค์กรเหมือนให้ความสำคัญเชิงลำเอียงด้วยการตั้งสมมุติฐานก็ดี เอียงไปทางฝ่ายคนที่ทำผิดกฎหมายมากกว่า ทั้งที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐพยายามทำทุกอย่างภายใต้กรอบกฎหมายและกติกา สังคมอย่างตรงไปตรงมา เพื่อความผาสุกของคนในประเทศ โดยเฉพาะในฐานะผู้ที่ประกอบอาชีพด้านกฎหมาย น่าจะสนับสนุนหรือให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่พยายามใช้หลักกฎหมายในการทำงาน มากกว่าการแสดงความไม่ไว้วางใจ หรือชี้นำให้เกิดความสับสน” พ.อ.วินธัยเมื่อวันที่ 18 มี.ค. พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก และโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนระบุว่าได้รับเรื่องร้อง เรียนจากผู้ต้องหาคดีปาระเบิดลานจอดรถศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก จำนวน 4 รายว่ามีการซ้อมทรมานเพื่อให้ได้ซึ่งข้อมูลจากผู้ต้องหา ว่า น่าจะเป็นเพียงคำกล่าวอ้างที่ไม่มีหลักฐานข้อพิสูจน์ อีกทั้งจากการตั้งข้อสังเกตพบว่าระยะหลังจะมีร้องเรียนในลักษณะนี้ทุกครั้ง เหมือนกับร้องเรียนไว้ก่อน หรือมีความกังวล จึงทำตามสิทธิไว้ก่อน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม เพราะบางครั้งการให้ข้อมูลที่บิดเบือน หรือเป็นเท็จออกไป เกรงว่าจะไปมีผลกับผู้ต้องหาในอนาคตเมื่อถึงขั้นตอนการพิจารณาคดี ถ้ากรณีที่ศาลอาจจะพิจารณาลดหย่อนอัตราโทษให้ ก็มั่นใจว่าไม่มีเหตุผลที่เจ้าหน้าที่จะต้องไปบังคับขู่เข็ญ อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าเจ้าหน้าที่จะไม่ใช่มาตรการบังคับแน่นอน การดำเนินการทุกอย่างจะอยู่ในวิธีแนวทางที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น และที่สำคัญ การให้ข้อมูลในชั้นนี้ จะเป็นเพียงองค์ประกอบส่วนหนึ่ง ยังไม่ใช่ข้อผูกมัดหลักในการฟ้องเอาผิดทางคดี เพราะขั้นตอนฟ้องเอาผิดจะอยู่ ในขั้นตอนต่อไปกับทางตำรวจ
แหล่งที่มา : เดลินิวส์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น