ยางกระทึบและเหยียบซ้ำจนลูกสาวตายต่อหน้าอย่างอนาถ สุดที่จะช่วยเหลือได้และตนก็ไม่กล้าเข้าไปช่วยด้วยกลัวช้างทำร้ายอีกคน เนื่องจากช้างกำลังโมโหอยู่และยังมีช้างอีกตัวยืนอยู่ใกล้ๆกันด้วย จากนั้นช้างตัวที่ทำร้ายลูกสาวยังได้เหยียบโคมไฟฉายที่ลูกสาวมัดติดศีรษะ ส่องใส่ต้นยางเวลากรีดพร้อมกับแบตเตอรี่จนแตกละเอียดก่อนที่จะเดินหนีไปด้าน นายทวีปคำแพงเมือง หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว เปิดเผยว่าช้างที่เข้าทำร้ายสาวเคราะห์ร้ายจนเสียชีวิตเป็นช้างป่าเพศผู้ 2ตัวที่ลงมาจากภูวัว ซึ่งขณะนี้ด้านบนภูเขามีความแห้งแล้งอาหารกินของช้างหมด จึงลงมาข้างล่างหากินออกนอกแนวเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ากว่า400 เมตรขณะนี้กำลังให้ลูกน้องออกติดตามช้างทั้ง2 ตัวอย่างใกล้ชิดเพื่อไล่ต้อนขึ้นภูวัวแต่มีชาวบ้านแจ้งพบเห็นช้างเพศผู้ตัว ใหญ่เพียงตัวเดียวที่เดินลงริมน้ำโขงไปใกล้กับวัดคลองคูหาบ้านท่าดอกคำ ต.ท่าดอกคำ คาดว่าอาจหนีข้ามไปหากินที่ป่าภูงูฝั่งสปป.ลาวส่วนช้างอีกตัวยังไม่มีใคร เห็นอาจซ่อนอยู่ในป่าแห่งใดแห่งหนึ่ง ขอให้ชาวบ้านและชาวสวนยางพาราได้ระมัดระวังตัวและขอร้องอย่าทำร้ายช้างด้วย เบื้องต้น นายนิพนธ์โชติบาลอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชสั่งให้นำเงิน จำนวน1หมื่นบาทไปช่วยเหลือครอบครัวผู้เคราะห์ร้ายรายนี้แล้ว
เมื่อวันที่10 ก.พ. ร.ต.ท.จำลองดวงพรม ร้อยเวร สภ.เหล่าหลวง จ.บึงกาฬ รับแจ้งเหตุช้างป่าลงมาจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัวทำร้ายชาวสวนยางพารา ที่กำลังกรีดยางอยู่ที่สวนห่างจากหมู่บ้านหนองแสงหมู่ 4 ต.ท่าดอกคำอ.บึงโขงหลง ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ1 กิโลเมตรจึงพร้อมด้วย พ.ต.ต.บัญญัติ สุริยะกาญจน์ รรท.สวญ. แพทย์เวร รพ.บึงโขงหลงหน่วยกู้ชีพ อบต.ท่าดอกคำ หน่วยอาสากู้ภัยสว่างศรีวิไลจุดบึงโขงหลงและนายทวีป คำแพงเมืองหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นสวนยางพาราพบศพ น.ส.อภิญญาอินทรักษา อายุ 37ปี สภาพศพใบหน้าและศีรษะแตกมีบาดแผลเลือดไหลอาบที่หน้าท้องเป็นแผลขนาดใหญ่ยาว8 นิ้ว แผ่นหลังมีรอยเท้าช้างเหยียบจนฟกช้ำเขียวไปทั่ว ที่โคนต้นยางพารามีไฟฉายส่องกรีดยางแตกละเอียดทั้งแบตเตอรี่
สอบ สวนนายเสวย อินทรักษา อายุ 59ปี บิดาผู้ตายทราบว่าก่อนเกิดเหตุได้ออกจากบ้านมากรีดยางประมาณตี3ตนกับลูกสาว โดยกรีดยางคนละแถวห่างกันประมาณ50 เมตร ต่างคนต่างก้มหน้ากรีดยางไปได้ประมาณเกือบตี5 ได้ยินเสียงลูก
แหล่งที่มา : เดลินิวส์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น