วันจันทร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2558

105ตุลาการศาลปค.ชงปฏิรูปศาล

940333จากนั้นเวลา14.30น. นายประสาท พงษ์สุวรรณ อธิบดีศาลปกครองจังหวัดระยอง พร้อมตัวแทนคณะตุลาการศาลปกครอง ได้รวบรวมรายชื่อตุลาการศาลปกครอง จำนวน 105 รายชื่อ เสนอประเด็นการการยกร่างรัฐธรรมนูญ และปรับปรุงกฎหมายในส่วนที่เกี่ยวกับการปฎิรูปศาลปกครอง ต่อนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธาน กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ

โดยมีเนื้อหา 6 ประเด็น อาทิ  อายุในการดำรงตำแหน่งทางบริหารของตุลาการ และของประธานศาลปกครองสูงสุด โดยให้ตุลาการศาลปกครองชั้นต้นเข้ารับราชการในตำแหน่งตุลาการศาลปกครองชั้น ต้นได้ ตั้งแต่อายุ 35-70 ปี และให้พ้นจากตำแหน่งบริหารทุกระดับไปเป็นตุลาการอาวุโส เมื่ออายุ 65 ปี เพื่อไม่ให้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารในขณะที่มีอายุมากเกินไป และทำให้การเลื่อนตำแหน่งในระดับล่างช้าเกินไป ส่วนตำแหน่งประธานศาลปกครอง สูงสุด หากดำรงตำแหน่งครบ 2 ปี ก่อนอายุ 65 ปีให้พ้นจากตำแหน่งประธานศาลปกครองสูงสุด ไปเป็นตุลาการอาวุโส โดยไม่อาจขยายระยะเวลาได้ เพื่อป้องกันปัญหาการใช้อำนาจไม่เหมาะสมหากดำรงตำแหน่งนี้ยาวเกินไป และจะยาวนานกว่าศาลยุติธรรมและอัยการ ที่เข้ารับราชการในอายุใกล้เคียงกัน และให้ประธานศาลปกครองสูงสุด มีอำนาจแต่งตั้ง ถอดถอนและลงโทษทางวินัย เลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการตุลาการศาลปกครอง (ก.ศป.) เป็นต้น ซึ่งนายบวรศักดิ์ กล่าวว่า กมธ.ยกร่างฯ จะรับข้อเสนอไปพิจารณาต่อไป

เมื่อวันที่ 19 ม.ค. ที่รัฐสภา นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.)ยกร่างรัฐธรรมนูญ แถลงความคืบหน้าในการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญรายมาตรา ว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาได้พิจารณาเสร็จแล้ว 91 มาตรา ในบททั่วไป ภาค 1 พระมหากษัตริย์และประชาชน  หมวด 1 พระมหากษัตริย์ หมวด 2 ประชาชน ส่วนที่ 1 ความเป็นพลเมืองและหน้าที่ของพลเมือง ส่วนที่ 2 สิทธิและเสรีภาพของบุคคล ส่วนที่ 3 การมีส่วนร่วมทางการเมือง และส่วนที่ 4 การมีส่วนร่วมในการตรวจสอบ ส่วนสัปดาห์นี้ จะพิจารณาในภาค 3 นิติธรรม ศาล และองค์กรตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ หลังจากนั้นจะพิจารณาองค์กรตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนจากเดิมคือคำว่า “องค์กรอิสระ”

โฆษก กมธ.ยกร่างฯ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้มีการระบุคำว่า “หลักนิติธรรม” ในมาตรา (3/1/1)1 ระบุว่า หลักนิติธรรมอันเป็นรากฐานของรัฐธรรมนูญในระบอบประชาธิปไตยอย่างน้อยมีหลัก การพื้นฐานสำคัญดังต่อไปนี้  (1)ความสูงสุดของรัฐธรรมนูญ และกฎหมายเหนืออำเภอใจของบุคคล และการเคารพรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ทั้งโดยรัฐและประชาชน (2)การคุ้มครองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาค (3)การแบ่งแยกการใช้อำนาจการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐและการป้องกันการขัดกัน ระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์สาธารณะ (4) นิติกระบวน ซึ่งอย่างน้อยต้องไม่บังคับใช้รัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายย้อนหลังเป็นโทษทางอาญาแก่บุคคล ให้บุคคลมีสิทธิในการปกป้องตนเองเมื่อสิทธิหรือเสรีภาพถูกกระทบ ไม่บังคับให้บุคคลต้องให้ถ้อยคำซึ่งทำให้ต้องรับผิดทางอาญา ไม่ทำให้บุคคลต้องถูกดำเนินคดีอาญาในการกระทำความผิดเดียวกันมากกว่าหนึ่ง ครั้ง มีข้อกำหนดให้สันนิษฐานว่าบุคคลเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่จนกว่าจะมีคำพิพากษาว่า กระทำผิด (5)ความเป็นอิสระจากศาลและความสุจริตเที่ยงธรรมของกระบวนการยุติธรรม

นายคำนูณ กล่าวอีกว่า ในส่วนของคำว่า “นิติกระบวน”ถอดมาจากภาษาอังกฤษว่าดีล โพรเซส ออฟ ลอว์ (Due Process of Law) ซึ่งนักวิชาการทางนิติศาสตร์ใช้คำว่า“หลักศุภนิติกระบวน” โดยทาง กมธ.ยกร่างฯ ได้ปรับให้กระชับลงเหลือเพียงคำว่า “นิติกระบวน” ส่วนที่เพิ่มเนื้อหากำหนดโทษที่ไม่ให้ใช้ย้อนหลังเป็นโทษอาญา จากเดิมที่เป็นโทษธรรมดา เนื่องจากเพื่อให้ประชาชนและพลเมืองมีหลักประกันว่ากฎหมายที่ออกมาในภายหลัง จะมีโทษทางอาญาย้อนหลังบุคคลไม่ได้ แต่จะไม่เกี่ยวข้องกับโทษอื่น ๆ อาทิ กฎหมายแพ่ง กฎหมายมหาชน คดีปกครอง หรือกฎหมายรัฐธรรมนูญ

เมื่อถามว่า ในประเด็นคดีอาญาอาจถูกมองว่าเปิดช่องไปสู่การบังคับโทษคดีทางการเมือง โดยเฉพาะนักการเมืองบ้านเลขที่ 111 และ 109 ให้สามารถมีผลย้อนหลังได้ นายคำนูณ กล่าวว่า ยังไม่ได้พิจารณาในประเด็นนี้ ต้องไปดูการพิจารณาในหมวดรัฐสภา อีกทั้งรัฐธรรมนูญ(ฉบับชั่วคราว)พ.ศ.2557 มาตรา35(4) มีกรอบให้ กมธ.ยกร่างฯต้องจัดทำ โดยเฉพาะ(4) ที่ระบุกลไกที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันและตรวจสอบ มิให้ผู้เคยต้องคำพิพากษา หรือคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายว่ากระทำการทุจริตหรือประพฤติมิชอบ หรือเคยกระทำการอันทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตเที่ยงธรรม เข้าดำรงตำแหน่งทางการเมืองอย่างเด็ดขาด โดยยืนยันว่าการพิจาณาจะเป็นไปตามหลักการ ไม่ได้ตั้งใจที่จะเอาผิดกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นพิเศษ

แหล่งที่มา  :  เดลินิวส์

Source: 105ตุลาการศาลปค.ชงปฏิรูปศาล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น