นอกจากนี้ ในวันที่ 19 มิ.ย. 58 ธปท.จะปรับลดประมาณการจีดีพี การส่งออก และอัตราเงินเฟ้อใหม่อีกครั้ง เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัว มีแนวโน้มปรับตัวลดลง โดยเฉพาะการส่งออกที่มีโอกาสติดลบส่วนข้อวิตกกังวลว่า จะเกิดภาวะเงินฝืด นายเมธี ยอมรับว่า เศรษฐกิจไทยเริ่มมีความเสี่ยงมากขึ้น เนื่องจากราคาสินค้าหลายกลุ่มปรับลดลง ซึ่งยังต้องติดตามต่อ และหวังว่าการลดอัตาดอกเบี้ยจะช่วยกระตุ้นอุปสงค์ได้ ส่วนเงินบาทที่แข็งค่านั้น ยอมรับว่ามีผลต่อการส่งออกบ้าง แต่ยังไม่ใช่ปัจจัยหลัก และการลดดอกเบี้ยในครั้งนี้อาจทำให้เงินบาทอ่อนค่าลง แต่ภาคเอกชนต้องปรับเปลี่ยนโครงสร้างการผลิต และในวันพรุ่งนี้ (30 เม.ย.) ธปท.จะมีการประกาศมาตรการผ่อนคลายการไหลออกของเงินทุนเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจทำให้เงินบาทอ่อนค่าลง สำหรับอัตราดอกเบี้ยที่ร้อยละ 1.5 เป็นอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำที่สุดในรอบ 4 ปี นับตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย. 53 ที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ร้ยละ 1.25วันที่ 28 เม.ย. 58 นายเมธี สภาพงษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ในการลดอัตราดอกเบี้ย นโยบายลงจากร้อยละ 1.75 เหลือร้อยละ 1.50 ต่อปี ซึ่งลดลงจากเดิม ร้อยละ 0.25 โดยให้มีผลทันที ส่วยอีก 2 เสียง ให้คงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม
ทั้งนี้ คณะกรรมการส่วนใหญ่เห็นว่า เศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวต่ำกว่าที่เคยประเมินไว้ ถึงแม้ว่าการลงทุนภาครัฐจะทำได้มากขึ้น รวมไปถึงการท่องเที่ยว ที่มีแนวโน้วเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่เพียงพอสำหรับการชดเชยการส่งออกสินค้าที่หดตัวและการบริโภคภาคเอกชนที่อ่อนแอกว่าที่คาด นอกจากนี้ในระยะข้างหน้าจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน รวมไปถึงโครงสร้างการค้าโลกและภูมิภาคที่เปลี่ยนแปลง โดยประเทศคู่ค้าหลัก มีการพึ่งพาการนำเข้าลดลง ทำให้การส่งออกไทยมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังมีแรงกดดันจากอัตราและเปลี่ยนที่แข็งค่าขึ้นในช่วงที่ผ่านมา การส่งออกที่หดตัวลงอาจส่งผลให้การลงทุนภาคเอกชนและการบริโภคภาคครัวเรือนอ่อนแอลงตามกำลังซื้อและความเชื่อมั่น ดังนั้น นโยบายการเงิน ควรผ่อนคลายเพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
แหล่งที่มา : ไทยรัฐ
Source: กนง.ลดอัตราดอกเบี้ยเหลือร้อยละ 1.5 กระตุ้นการซื้อ-ขายสินค้า
